pic of day

pic of day

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การสร้าง ฟิลเตอร์ ของ Lee Filter

จริงๆ วิดีโอ เรื่อง ฟิลเตอร์นี้เก่าแล้ว แต่ผมไม่แน่ใจว่าเคยแชร์ในบล็อกหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เคยแชร์ในกลุ่ม Thaioffcamera ไปแล้ว เนื่องจากผมเห็นว่า วิดีโอ ชุดนี้ ดี เลยอยากเอามาใส่ในบล็อกเพื่อเป็น บทความอ้างอิง ด้วยในตัว

ส่วนที่ใหม่เข้ามา ก็คือ การสร้าง เจล (หรือที่บางคนก็เรียกว่า ฟิลเตอร์สี) สำหรับการใช้งานกันแฟลช หรือ ไฟสตูดิโอ ต่างๆ ที่เขาเรียกกันว่า เจล ก็เพราะเดิมมันถูกสร้างจากสารจำพวกเจลาตินเป็นฐาน แต่ปัจจุบันเขาใช้ วัสดุจำพวกแผ่นใสแทน แต่ก็ยังเรียกว่า เจล เหมือนเดิม



สำหรับการสร้าง ฟิลเตอร์นั่น ที่น่าสนใจคือ กระบวนการสร้าง ฟิลเตอร์ ของแบรด์ยอดนิยมนี้ ใช้กระบวนการทำด้วย มือ ล้วนๆ ลองดูวิดีโอกัน เพลินๆนะครับ

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

มาเจลสี ให้กับ บิวตี้ ดิช กัน

ได้ฟีดข่าวจาก Strobist อันเป็นต้นกำเนิดของการสอนเรื่องแฟลชแยก เป็นกลุ่มแรกๆ ของโลก (ผมก็สมาชิกเก่าแก่ที่นั่น )  วันนี้ ผมชอบ ไอเดียของ เดวิท ฮอบบี้ มากๆ เรื่องนี้ อดไม่ได้ที่จะเอามาแชร์กัน

วิธีการ ง่ายๆ ดูรูปได้เลยครับ ขึ้นแรก เอา เจลสี ที่เราใช้กับแฟลชเล็กนี่แหละมา สัก 3 ชิ้น





จากนั้นก็เอามาต่อกัน



เอามาต่อกัน



ทาดา ออกมาแว้ว เจ๋งมะ



สนใจเรื่องอื่นๆ และ กลุ่มของที่นี่ ให้ไปที่ ลิงค์นี้ครับ

http://strobist.blogspot.com/


วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตอกย้ำ ที่เคยบอกว่า ช่างภาพต้องเรียน PS

เคยเขียน บล็อก ไปแล้วบอกว่า สมัยนี้ ช่างภาพ ทุกคน ต้อง เรียน โฟโตชอป ขอรับ
ไม่ก็ต้องรู้จักการแต่งภาพ แต่ไอ้จะแต่งภาพให้เทพสุดๆ ก็หนีไม่พ้นโปรแกรมยอดฮิตอย่าง โฟโตชอป
บางคน บอก ปากจะฉีกไปรูหู ก็เฉยๆ แต่พอเห็นภาพคนอื่นสวยๆ ก็มาบอกว่า อยากทำเป็น :-P





บางคน หาที่เรียน คอร์ส เร่งรัด แบบว่า ออกมา เทพ เลย ขอบอกว่า "เรื่องเยี่ยงนี้ ไม่มีในโลก" ครับ
มีแต่ว่า ค่ายไหน จะตั้งหลักให้คุณดี พื้นฐาน แกร่ง แบบว่า มอง กระบวนท่า ที่เขาทำ ก็รู้เลยว่า
เขากำลังทำอะไร? ใช้เทคนิคอะไร? และ ประยุกต์พลิกแพลงได้ ผมเจอ เจ้าหนึ่ง ขายวิดีโอติว แต่ แยกขาย รีทัชเป็นแบบๆไป แบบนี้ สามารถ เตาะเงิน คุณได้ เรื่อยๆ ทำแบบหนึ่ง จ่ายที ทำอีกแบบ จ่ายอีกที

ผมในฐานะ คนสอนด้วย และ เรียนด้วยตัวเองด้วย จะบอกว่า ถ้าคุณมีพื้นที่ดี คุณทำอะไรต่อได้ เยอะ
อาจเรียนเทคนิคพิเศษ บางอัน แล้ว ต่อยอดไปได้ ไม่ใช่ เจอโจทย์ใหม่ที มึนไปที ถ้าแบบนั้น รู้ด้วยครับว่า พื้นฐานเรายังอ่อน ควรเร่งขวนขวายครับ

ตัวอย่าง ที่เอามาแสดง จริงๆ ไม่ได้ยากในเชิงเทคนิค แต่เป็น ความอึด ที่ เธอ/เขา มี

การแต่งภาพคือ การเรียนรู้ที่ไม่จบสิ้นจริงๆครับ แต่พื้นฐานควรแน่นปึ๊ก ขอให้โชคดีครับ


วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556

reflector ใหม่ จาก Profoto


สำหรับ คนที่ ชื่นชอบการใช้ รีเฟล็กซ์ ตอนนี้ ทาง ค่าย profoto ได้ออกสินค้าตัวใหม่มา
จุดเด่น เท่าที่เห็นก็มีเรื่อง ด้ามจับ ที่มั่นคง แข็งแรง  ผมไม่รู้ว่า ราคา เท่าไหร่ เพราะ ระบบ รีเฟล็กซ์ ที่ผมเห็นว่า ดีกว่า หรือ มีของพร้อมกว่า จะเป็นของค่าย Sun Bounce  ซึ่งของเขา มีโปรหลายคนใช้เยอะมาก และ ราคา ต้องบอกว่า แพงหูฉี่ ครับ

ชอบค่ายไหน ซื้อค่ายนั้น แพง เหมือนๆกัน
ส่วนผม รอ จีน ก๊อป ลูกเดียวครับ

อันนี้ของ Profoto


อันนี้ของ Sun Bounce  ใครชอบ ก็ลองไปดูในเวปเขาครับ มีหลายอย่างให้ซื้อ http://www.sunbounce.com/

เป็นเวิร์คชอปของ เกรก กอร์แมน





วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

แสง และ รูปทรง ผ่านทางการแสดงแนวแด้นซ์

ไม่ได้มาอัพเดทนาน ด้วยความขี้เกียจของผมเอง ขอ อภัย สมาชิกด้วยครับ
วันนี้ไปเห็นวิดีโอนี้ ผมว่าแปลกตา และ น่าจะได้แรงบัลดาลใจดีครับ

วิดีโอ ที่ทำ ต้นฉบับ ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมาก แต่ผมเดาว่า มันน่าจะเป็นการ สร้างโดยกราฟิค
แต่การ ผสมผสาน ท่าเต้น กับ แสงที่จะสร้าง น่าสนใจมาก

การทำภาพเป็นขาวดำ ก็เป็นสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ มันน่าสนใจ และ ไม่ยากเกินไป ที่จะทำแสงสีขาว เพิ่มเติมภายหลัง


วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทิศทางของ การถ่ายภาพ ปี 2014



ขออภัยที่ไม่ได้มา อัพเดท บล็อก นานเลย ครับ หลังจาก เรื่องของเวดดิ้ง เรื่องมันยุ่งๆ เข้ามา และ ผมไปทำการสลายต้อกระจกตาข้างขวาอีกข้าง ทำให้ ตอนนี้สายตาผมสมบูรณ์แบบ ทั้งสองข้างล่ะ

จริงๆข่าวในวงการถ่ายภาพ ที่ผ่านหูผ่านตา ผมไป ก็เริ่มจะมีการทรงตัว และ ผมสังเกตได้ว่า เทรน บางอย่าง เริ่มหายไป อย่างเช่น ตอนนี้ คุณจะไม่ค่อยได้เห็น นวัตกรรมอะไรใหม่ๆ หรือ การฮือฮา ของ การเล่นแสง แบบสมัยก่อนอีกแล้ว เพราะคนที่ตื่นเต้นในช่วงแรกๆ ก็ผ่านขั้นตอน ในเรื่อง แสง การวางแสง ทิศทางแสง และ อื่นๆ กันมาเกือบหมดแล้ว (จะเหลือก็เรื่องแสงลึกๆที่ผมยังเปิดสอน คอร์ส 102 103 นี่แหละ ฮ่าๆๆๆ)

เอา สิ่งที่ผมเห็นก่อนเลยนะครับ

อันดับแรก  กล้องแบบ ไร้กระจก จะค่อยๆเข้ามาเบียด DSLR ครับ ดังนั้นใครจะหา บอดี้สำรอง ตอนนี้ ควรมองหากล้อง ไร้กระจก กันก่อนเลย มันมีเหตุผลที่ดีมากๆ ของกล้องไร้กระจก พอกล่าวได้สังเขป ก็คือ ขนาดเล็ก พกง่าย คุณภาพเทียบเท่า DSLR หรือ ใกล้เคียงกันมาก ทำให้ อุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ มีขนาดเล็กลง และ ที่สำคัญมาก กล้องไร้กระจก จะไม่มีปัญหาเรื่อง เลนส์ Back/front อีกต่อไปครับ!!

ลองดูวิดีโอ นี้ ครับ


มีเวปที่ อุทิศตัวให้กับ กล้องแบบนี้ ซึ่งเขาเรียกว่า ไฮบริจ ก็คือ เวปที่แตกมาจาก Shoot Smarter ครับ ลองเข้าไปหาความรู้กันได้ที่นี่  http://www.discovermirrorless.com/

ประการที่สอง เทคนิคการถ่ายภาพ จะเข้ามามีบทบาท มากขึ้น และ มากขึ้น
คนที่อยู่กับ กลุ่ม thaioffcamera จะเห็นว่า ผมจะแชร์เรื่องเทคนิค การถ่ายภาพมากและมีการแชร์กันซื้อหนังสือ แนวเทคนิคการถ่ายภาพ ที่ผ่านมามากมาย อาทิ  เทคนิคการซ้อนโฟกัส การถ่ายภาพความเร็วสูง การถ่ายภาพความเร็วต่ำ การ ระบายแสง และ อื่นๆอีกมากมาย

ล่าสุด มีสินค้าใหม่ จาก เจ้าพ่อ ไฟสตู คือ Bron Color ได้ออกสินค้าที่เรียกว่า แปรงระบายแสง (Light Brush) ที่หน้าตา คล้าย ที่เป่าผม ผมเชื่อว่า ของก๊อป ก็คงมีออกมาจนได้ แต่ ขณะที่เขียนบล็อกนี้ ยังไม่มีนะครับ คุณลองดู ตัวอย่าง และ การถ่ายภาพแนวนี้ได้จากวิดีโอนี้



และ นี่



ประการที่สาม ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม เทคนิค แต่งภาพ ด้วยโปรแกรมโฟโตชอป จะตามมาหลอกหลอนคุณ ถ้าคุณต้องการ แตกต่าง กับ คนอื่นๆ ในการสร้างภาพ คุณหนีไม่พ้นหรอก ทางที่ปลอดภัยคือ รีบกระโดดขึ้นมาบนรถขบวนนี้ซะ!!!  ทำความเข้าใจกับมัน ปรับฐานให้แน่น ไม่งั้น คุณโดนคนอื่น แซงไปแน่ครับ ผมรับรอง ลองดูเวปของ แม็กซ์ ทเวน ที่กลุ่มเราพึ่งมีกิจกรรมซื้อ วิดีโอ ของเขาได้ที่นี่



http://www.maxtwain.com/#!store/cvkz


ครับ ก็หวังว่า เราจะได้เห็นภาพรางๆของอนาคต วงการถ่ายภาพ ข้างหน้านะครับ  โมเมนตัม ในสามเรื่องนี้กำลังเคลื่อนไปอย่างช้าๆ แต่แน่นอนครับ


วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

10 Top Wedding ประจำปี 2013

จากนิตยสาร American Photo นะครับ ผมแปะไว้นานมากๆๆๆ เลย ครับ และ ในฉลับนี้ ปรกติ เมื่อเขาเขียนเรื่องราว มักแปะลิงค์ ต้นทางของ ช่างภาพให้เราไดชม แต่ฉบับปีนี้ หายไป ผมเลยต้องไปตามเอาจากเวปเขาเลยได้มา ครับ เราลองมาดูกันเลย

ปล เหมือนเดิมนะครับ ผมเรียบเรียง มาจากหนังสือ American Photo ฉบับเดือน มีนา-เมษา 2013


1. MORGAN LYNN RAZI  เข้าเวปเขาแล้วตกใจ  นึกว่าจะดูหนัง จีน เพราะแกดันใช้คำว่า fearlessมาขาย จริงๆ แล้ว Razi เป็นคนเริ่มถ่ายภาพงานแต่งงานเป็นไซด์ไลน์มาก่อน แต่ตอนที่เธอทำนั้น เธออายุ 15 ปี และเห็น นศ มหาวิทยาลัย โคโรลาโด ก่อนจะมาพบว่าที่สามี ที่ชอบการถ่ายภาพด้วยตอนเธอเรียน มหาลัย เธอเรียนการถ่ายภาพนะครับ และก็รับจ๊อบไปด้วย แต่สมัยนั้น เธอก็คิดว่า งายถ่ายภาพของเธอนั้นไม่ได้ เท่ หรือ เจ๋ง อะเไรมากมาย (สงสัยทำไปงั้นๆแหละ) และ ภาพของเธอก็ไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรให้กับ อาจารย์ หรือ เพื่อนๆ แต่อย่างใด ทำไปงั้นๆ ชิวๆ 555พอเรียนไปได้สักระยะ เธอก็นำความรู้ เทคนิค ที่เรียนมาผสมผสานกับ แนวการถ่ายภาพของเธอ ทำให้เธอเริ่มโดดเด่นขึ้นมา แต่ผมว่า เธอเริ่มมีแฟนนั่นแหละ เธอถึงสนใจเรื่องราวของ ความรักมากขึ้น นอกเรื่องนะครับ เพราะตอนหนึ่งเธอพูดว่า ฉันรู้สึกตื่นเต้นและได้รับแรงบันดารใจจาก อารมณ์และความสุขของผู้คน และฉันสัมผัสกับมันได้เพราะฉันนั้นโชคดีในความรัก ว่างั้น



2 Matt Miller แก้วตาขาร๊อค กว่าตัวเองจะรู้ว่ารักการถ่ายภาพก็เกือบๆจะสายไป แมตต์ มิลเลอร์ อดีตสมาชิกวงพังค์ร๊อค ที่ได้ตัดสินใจที่จะพักงานด้านนี้สักพักในปี 2007 เขาก็ได้ย้ายตัวเองจากบรู๊คลีนกลับมาที่แอตแลนต้า ลองงานใหม่ๆมาก็หลายงาน รวมทั้งเป็นช่างภาพคอนเสิรต์ก็เคยมาแล้ว จนเมื่อเพื่อนๆเขาแนะว่า เฮ้ย ลองไปผู้ช่วยถ่ายภาพงานเวดดิ้งสิ เขาก็คิดในใจว่า ตัยห่า มันฟังดูน่ากลัวไงไม่รู้ และ ตูก็ไม่รู้อะไรเล้ยเกี่ยวกับการถ่ายภาพเวดดิ้ง แต่ ตู ต้องการเงิน เอาวะ ลองดู
พอลองทำงานเป็นผู้ช่วยมาได้ 3 ปีเขาก็เริ่ม ออกมาหางานเอง แต่กลายเป็นว่า การที่เขาเคยอยุ่วงดนตีแนวฟังค์ร็อกมาก่อน กลับช่วยให้เขาสร้างผลงานในแนวทางของตัวเองขึ้นมาได้ (เฉยเลย) แถมการอยู่วงตนตรี ทำให้เขาเอาวิชาการเซตแสงมาใช้ด้วย เขามักเซตไฟสตูดิโอ เพื่อให้แสงกับพื้นที่ทั้งหมดของงานเลี้ยงต้อนรับ นับว่า การเป็นร็อคสตาร์จะกลายเป็นเวดิ้งสตาร์ไปในที่สุด



3.Ryan Brenizer:  ตอนที่ผมเริ่มงานถ่ายภาพเวดดิ้ง ผมรุ้สัึกเหมือนผมกำลังออกภาคสนาม
ไรอัน จริงๆก็ทำงานเป็นช่างภาพอยู่แล้วที่มหาวิทยาลัย โคลัมเบีย โดบนีลหย่สมราถาสบภาพงานกิจกรรมในมหาวิทยาลัยทั่วไป  ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารุ้สึกตื่นเต้นอะไรมากนัก แต่พอมาถ่ายภาพเวดดิ้ง เขารู้สึกเหมือนกับว่า เขากำลังเดินทางเข้าหาฉากที่เต็มไปด้วย อารมณ์ และ ความสวยงาม
เขามักทำราวกับว่า งานเวดดิ้งเป็นงานที่ถูกมอบหมาย เขาอยากรุ้ว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นใคร และ อยากแสดงเรื่องราวต่างๆของพวกเขา และเขามักใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับภาพ อาทิ การซ้อนแสง การระบายแสง การถ่ายภาพพาโนรามิคพอร์ตเทรดซึ่งเป็นที่รุ้จักกันดีในนาม Brenizer Method อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังยืนยันว่า เทคนิคเป็นแค่ วิถีทาง ที่จะทำไปสู่เป้าหมาย แต่สิ่งที่สำคํญกว่านั้นคือ ชั่วขณะที่คนสองคนกระทำต่อกัน






4 Samm Blake: แซมผ่านงานทางด้านการถ่ายภาพหลากหลาย ทั้งแนว แฟชั่น และ งานเชิงการค้าอื่นๆมากมาย ในช่วงระหว่างการเรียนเธอรับงานถ่ายภาพเวดดิ้งเพียงเพื่อจะหาเงินเล็กๆน้อยๆมาเป็นค่าขนม แต่กลายเป็นว่า งานถ่ายภาพเวดดิ้งนี่แหละที่จับใจของเธอ "ฉันว่างานถ่ายแบบนี้ เป็นเพียงชนิดเดียวที่ฉันจะได้มีอิสระในการใช้ความคิดสร้างสรรได้เต็มที่ ฉันสามาาถทำอะไรก็ได้ โดยที่ไม่ต้องมีใครมาสั่งฉันว่าต้องทำอย่างโน้น อย่างนี้ ฉันว่า ฉันก็คงเป็นพวกหัวดื้ออย่างนี้แหละ"

"ฉันรุ้ว่าเมื่อไหร่ควรเงียบ เพื่อให้คู่รักได้มีเวลาของตัวเอง" งานภาพของเธฮก็มักมี ช่องว่าง ขององค์ประกอบภาพเพื่อให้ซับเจคได้หายใจบ้าง งานของ เบลค มักออกมาในแนวบันทึกข้อมูลและศิลปะ







5.Ryan Joseph:  ตอนที่ ไรอัน ถูกทาบทามให้เข้ามาเล่นฟุตบอล (หมายถึงอเมริกันฟุตบอล) ให้กับมหาวิทยาลัย โอไฮโอ เขาไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่า เขาได้มาอยู่ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงยอดเยี่ยมด้านการเรียนการสอน ในการถ่ายภาพ 4 ปีผ่านไปเขาได้ ปริญญาด้านการถ่ายภาพ จากนั้นเขาก็มาเปิดสตูดิโอ ด้านการถ่ายภาพ โจเซฟ มีสไตล์การทำงานในแบบ วิจิตรศิลป แต่ก็อาศัยเทคนิคต่างๆมากมายเพื่อจะให้ได้ภาพในแนวที่ตัวเองต้องการ

"ช่างภาพเวดดิ้ง มันก็เหมือนเป็ดนั่นแหละ คุณต้องเป็นทั้ง ช่างภาพแนวบันทึกเหตุการณ์ ช่างภาพพอร์ดเทรด และ นักเล่าเรื่องด้วยภาพ แถมบางทีคุณต้องเป็น นักจิตวิทยา อีกด้วย"

ในยามที่ต้องเป็นช่างภาพพอร์ดเทรด เขาก็จะสวมหมวก ผู้กำกับ จัดการกับคอมโพสิชั่นอย่างปราณีตบรรจงโดยใช้แสงธรรมชาติ เขาให้การช่วยเหลือซับเจคของเขาในการที่จะนำเอาความเป็นบุคลิกภาพของซับเจคออกมา

หัวใจของพอร์ตเทรดในงานเวดดิ้งก็คือ การแสดงตัวตนของเขาหรือเธอออกมาให้เห็น





6.Emin Kuliyev:  สำหรับ อีมิน คูลีเยฟ งานแต่งงานแต่ละครั้ง ดูจะเป็นเหมือน การผจญภัย ค้นหาขุมทรัพย์มหาสมบัติอะไรประมาณนั้น "คุณไม่รุ้ว่า คุณจะไปที่ไหน คุณไม่รุ้จักคนเหล่านั้น คุณไม่รู้อะไรเลย" คุณก็เปรียบเสมือนผึ้งที่บินไปหาดอกไม้

คูลิเยฟ จากบ้นาเกิดที่ กรุงคาบูล ประเทศอาเซอไบจัน และมาอยู่ที่ นิวยอร์ค จากนั้นเขาได้งานเป็นกราฟิคดีไซน์เนอร์ แต่เมื่อเขาประสบอุบัติเหตุ ทำให้เขาเดินไม่ได้เป็นปี พอเขาเริ่มจะใช้ไม้เท้าช่วยเดินได้ เขาก็เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับกล้องดิจิตอล เมื่อเขาหัดถ่ายภาพอยู่นั้น เขาถ่ายทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวเขา ตั้งแต่ พอร์ตเทรด ไปจนถึง ทิวทัศน์ของเมืองใหญ่ ไปจนกระทั้ง ลิงกอริล่าที่ สวนสัตว์ในบร๊องซ์

เมื่อเขาค้นพบ การถ่ายภาพเวดดิ้งเขาบอกตัวเองว่า นี่คือสิ่งที่เขาค้นหา  "ผมเป็นนายของตัวเอง ผมชอบที่จะอยู่รอบๆกับคนที่มีความสุข และะผมก็จะใช้ทักษะที่มีทุกอย่างในการถ่ายภาพเวดดิ้ง"

ภาพของเขาจะ บรรจงประกอบขึ้น อย่างมีอารมณ์ขัน เปี่ยมด้วยอารมณ์ และให้ความรุ้สึกที่แรงกล้า ซึ่งเขาได้กล่าวว่า เขาได้พบแรงบันดาลใจของเขาแล้ว แต่เขาก็ใช่ว่าจะปิดตนเองลงกับสิ่งใหม่ๆ

เขากล่าวว่า ",มันยากที่จะรุ้ว่า พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น" บางทีผมอาจเขียนบทกวี หรือ วาดภาพ ก็ได้ ใครจะรู้





7.Ashley and Jeremy Parsons:  ตอนที่ แอชลี่ย์ พาร์สัน ถูกขอให้ถ่ายภาพงานแต่งงาน เธอทำงานเป็นพยาบาลพี่เลี้ยงเด็กที่ งานออกร้านเกี่ยวกับสุขภาพแห่งหนึ่ง เธอหัวเราะและกล่าวว่า "ฉันไม่ใช่ช่างภาพ แต่ก็ ขอบคุณ" จริงๆแล้ว ภาพที่เธอถ่ายก็เป็นภาพหมู่ครอบครัวง่ายๆไม่มีอะไรซับซ้อน แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา เธอก็เหมือนกับถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ เธอเล่าว่า มันเหมือนกับ การย้ายจากประสบการณ์หนึ่งไปสู่อีกประสบการณ์หนึ่ง ทุกๆภาพที่เธอถ่าย เสมือนเป็นของขวัญสำหรับเธอ

เธอกลับบ้านไปบอก สามีของเธอว่า เจเรมี่ เราต้องเป็นช่างภาพเวดดิ้ง"ฝ่ายสามี ด้วยความที่ เบื่องานประจำอยู่เหมือนกัน ก็เลยตามใจเธอ (ตอนนั้นเขาเป็น เสมียนในบริษัทให้กู้ยืมเงิน)

พวกเขา เก็บหอมรอมริด แล้วไปเปิดบูท ที่งานเวดดิ้งแฟร์แห่งหนึ่ง และได้รับจองงาน 18 งาน (บะ ดีแบบนี้ เด่วผมทำมั่ง 555)  เจเรมี่ เลยออกจากงาน มาทำงานเต็มเวลากับ ภรรยา จากนั้นอีกหลายปี พวกเขาก็ได้พัฒนาแนวภาพแบบ บันทึกเหตุการณ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ "เราจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์กับลูกค้า เพราะเราไม่อยากคิดว่าลูกค้าคือลูกค้า เราอยากรู้เรื่องเราวของพวกเขา และ สิ่งที่พวกเขาเป็น"   และพวกเขาก็ทำได้ดีเสียด้วย

"คุณจะไม่มีแรงบัลดาลใจได้อย่างไร ในเมื่องคุณมีความรักแห่งชีวิตอยู่กับคุณ"







8. Sean Flanigan  จีน ฟานิงแกน เริ้มต้นอาชีพของเขาในปี 2005 ด้วยการเป็นนัถถ่ายภาพแนวผสมผสานระหว่าง นักหนังสือพิมพ์ กับ ช่างภาพเวดดิ้ง แต่ก่อนนั้นเขาเป็น นักเรียนอยู่ที่ สถาบันศิลปที่ซีแอตเติล แต่แล้วเขาก็มาถึงทางแยกของชีวิต เมื่อมี นสพ ฉลับหนึ่งมาจ้างเขาในตำแหน่ง สต๊าฟ โดยหน้าที่ของเขาคือ ไปทำภาระกิจตามที่กำหนด "แต่งงานมันไม่ได้สนุกเหมือนกับที่ผมถ่ายภาพเวดดิ้งให้กับลูกค้าเลย" ฟานิงแกนเลย เลิกอาชีพ นักหนังสือพิมพ์ และ ค่อยๆเก็บสะสมลูกค้าของเขา 
"เฉพาะภาพที่ผมอยากถ่ายอีกครั้งเท่านั้น ที่จะเข้าไปสู่ พอร์ตของผมได้"

ด้วยเหตุนี้ ลูกค้าของเขาจึงมักเป็นพวกสายอาชีพครีเอทีฟซะส่วนใหญ่ ที่ซึ่งพวกเขาได้แบ่งปันความกระตือรือล้นของเขาในการทำงาน "เจ้าบ่าว เจ้าสาว ของผมเปรียบเสมือน อาร์ตไดเร็กเตอร์ และผมยินดีที่จะร่วมงานกับพวกเขาเป็นทีม"  


ฟานิงแกน ใช้วิธิการที่หลากหลายเพื่อให้ได้ภาพในแนวของเขา เขามักใช้กล้องฟิลม์ โลโม เป็นครั้งคราว บวกกับ สายตาที่เฉียบแหลม ในการมองแสงธรรมชาติ ในเขตซีแอตเติลที่เขาเติบโตมา "มันช่างยากเย็นที่จะหา แสงที่มีทิศทางได้ ดังนั้น ถ้ามีแสงเกิดขึ้น ผมจะรีบ กระโดดใส่มันทันที ผมมักมองเห็นแสงที่น่าสนใจเกิดขึ้น มันเหมือนกับ สิ่งที่โผล่ขึ้นมาในใจผม" 

นอกเหนือจาก เทคนิคแล้ว ฟานิงแกน ยกความชอบในเรื่องความสำเร็จของขาให้แก่ ลูกค้า ผู้ซึ่งให้ความไว้วางใจและอนุญาติให้เขา เข้าถึง ตัวตนของลูกค้า "สิ่งสุดท้ายที่ผมอยากได้รรับคือ การเห็นพวกเขาได้แต่งงานกัน และ ได้มองเห็นหน้าของพวกเขา มันช่างน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ" 








Todd Hunter McGaw   
ก่อนอื่น ผมต้องขอบอกว่า เวปของ ท็อดด์ แม็คกอว์ นี่ สวยน่ารักพิลึก
หากใครมาถามช่างภาพจาก บริสเบรน ออสเตรเลีย คนนี้ว่า เขาอยากถ่ายภาพเวดดิ้งไหม เขาจะตอบว่า "โอ้ ผมไม่ได้เตรียมตัวเพื่อมาเป็นช่างภาพแต่งงานนะครับ ผมน่ะอยากเป็นช่างภาพคอมเมอร์เชียลอยู่ตลอดเวลาแหละ" แต่เขาก็รู้ว่า เขาสามารถสร้างภาพที่ออกมาหลากหลายแนวได้ ในคราวเดียว และ นั่นก็กลายเป็นจุดแข็งที่ดึงดูดใจลูกค้าของเขา

สถานที่ ที่ แม็คกอว์ อยู่นั้น  ก็มีความหลากหลายทางเชื้อชาติอยู่แล้ว เขากล่าวว่า "ออสเตรเลีย เป็นที่ๆมีวัฒนธรรมทางสังคมที่หลากหลาย" เรามีพิธีแต่งงานของพวก เวียดนาม จีน ออโธด็อกซ์ และผู้คนที่ได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมแบบป๊อปด้วย" มีหลายคนเลย ที่ใส่ความต้องการส่วนตัวของพวกเขาเข้ามาด้วย ซึ่งเราก็ชอบมันมาก

ส่วนใหญ่แล้ว กระบวนการแบบสามัญทั่วไปของ แม๊คกอว์ ที่มักจะเป้็นก็คือ ลูกค้ามีความต้องการภาพ ผนวกกับ กระบวนการสร้างสรรภาพโดยการให้ความร่วมมือของลูกค้า  และแม้ว่า ลูกค้าจะชอบภาพ พอร์ดเทรดของเขาแค่ไหน พวกเขาก็จะต้องประหลาดใจกับภาพแนว แอบถ่าย ของเขาอยู่เสมอ

(ก่อนลูกค้าจะเห็นอัลบัมภาพ) เรามักบอกกับลูกค้าว่า "คณจะต้องชอบ ภาพที่คุณจูบคณแม่ของคุณแน่ๆ" ลูกค้าก็จะตอบว่า อ๋อ ใช่ๆๆ แน่ล่ะ ไหนเรามาลองดูอัลบัมภาพกันดีกว่า แต่พอพวกเขาได้เห็นอัลบัม พวกเขาจะประทับใจกับ ช่วงขณะ เล็กๆ ที่เราบรรจงเก็บไว้อย่างตั้งใจกันทุกคน









10 Tyler Wirken
"เราไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน" ไทเลอร์ ไวร์เคน แห่ง แคนซัสซิสตี้ มิสซุรี่ กล่าว
ลูกค้ามักสนใจภาพแต่งงานของคนอื่นมากกว่าของตัวเอง

ไวร์เคน เริ่มงานถ่ายภาพจากการเป็นช่างภาพแนวบันทึกเหตุการณ์
 เขามีแนวการบันทึกภาพเหตุการณ์แบบเงียบๆ ทำตัวให้ไม่เป็นที่น่าสนใจ  (ผมนึกถึง เดนนิส ริชชี่ เลยตอนนี้)  "ถ้าผมคุยกับพวกเขามากเกินไป  มันก็จะไปมีผลต่อความเที่ยงแท้ของ ช่วงเวลาของภาพ"

ไวร์เคน ทำถึงขนาดที่ว่า เอาตัวออกจากโบสถ์ ที่กำลังมีพิธีการ โดยทิ้งกล้องที่มีรีโหมตอยู่ด้านใน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีการสื่อสารใดๆเลยกับลูกค้า  "ผมใช้เวลากับพวกเขามากพอ จนกระทั่งถึงวันเริ่มงาน ผมก็จะได้้รับความไว้วางใจจากพวกเขา"

จากบุคคลิที่เน้นไปที่ความสัมพันธ์ของครอบครัว ทำให้สไตล์ของเขาเหมาะกับ คู่แต่งงานที่ อาศัยและเติบโตมาในเมือง "ลูกค้าส่วนใหญ่ของผม ยังคงอาศัยในเมื่องที่พวกเขาเติบโตขึ้นมา การผูกพันกับครอบครัวที่แน่นแฟ้นนั้นนับเป็นข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัด"  การที่เขาอยู่กับลูกค้ายาวนานจนแทบจะวินาทีสุดท้าย กลับกลายเป็นเป้าหมายอันสูงสุดของเขา "ถ้าผมสามารถเจาะลึก และ สามารถ แส่งให้พวกเขาเห็นว่า แท้จริงแล้วพวกเขานั้นเป็นใคร ก็นับว่า ผมประสบความสำเร็จแล้ว"












วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Magic Lantern เฟริมแวร์ สุดยอดสำหรับกล้อง Canon ที่คุณไม่ควรพลาด



เห็นฟีดข่าว แวบไป แวบมา ไม่ได้สนใจ จนมาจอวิดีโอ โปรโหมตของเขา เลยชักสนใจ
จนกระทั่ง เมื่อคืนนี้เอง ไปนั่งอ่านเวปเขา และ ได้ลองโหลด เฟริมแวรืนี้มาใช้ดู เลยรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้าจอร์จ มันยอดมากเลย  เลยต้องทำรีวิว เอามาฝากครับ

เฟริมแวร์ที่ว่าคือ เมจิก แลนเทิน หรือ ตะเกียงวิเศษ นั่นเอง เวปไซด์เขาคือ http://www.magiclantern.fm/  ลองอ่านรายละเอียดนะครับว่า รุ่นกล้องไหน ที่ พร้อมสมบูรณ์ รุ่นไหนที่ยังไม่พร้อมดี อย่างของผม 7D ยังไม่สมบูรณ์ แต่ไอ้ตัวที่ไม่สมบูรณ์ เขาจะปิดไว้ให้กดเลือกใช้ไม่ได้ครับ

มันทำอะไรได้มั่ง ลองดู วิดีโอ ที่ผม อัพโหลดไว้ที่นี่ นรับ   ส่วน วิดีโอ ที่แสดงวิธีทำเลย ผมจะเอามาจากยูทูป นะครับ แปะไว้ คุณสามารถหาเพิ่มได้จาก ยูทูป ครับ










Magic Lantern HDR Workflow Tutorial



Magic Lantern Focus Stacking Tutorial with Post Production in LR4 and PS CS6



Magic Lantern version 2.3 Promo


วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

360º Lightpainting

กำลังเขียนบล็อกเรื่อง เวดดิ้ง ยังไม่เสร็จดี มีเรื่องน่าสนใจมาแทรก ผมเลยคิดว่า เอาขึ้นบล็อกเก็บไว้เป็น บคความอ้างอิงที่น่าสนใจได้ จาก บทความของ DIY Photography  อันนี้  http://www.diyphotography.net/how-360-lightpainting-are-made?utm_source=feedburner&utm_medium=feed&utm_campaign=Feed%3A+Diyphotographynet+%28DIYPhotography.net+-+Photography+and+Studio+Lighting%29  ผมคิดว่า ไอเดีย ของเขาน่าสนใจเอามากๆ แม้ว่า การถ่ายภาพ แบบใช้กล้อง วางเรียนกัน 360 องศา เราเคยเห็นกันมาแล้ว แต่ การ ขยายฐานออกไป เป็นเรื่อง Lightpainting นี่ ถือว่า น่าสนใจมากๆ

รายละเอียด ลองไปดูในลิงค์ แต่อยากให้ดู วิดีโอ นี้ครับ

วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

มาเล่น แป้ง เล่นสี รับสงกรานต์ กัน 555

ผมเห็นวิดีโอนี้  เห็นว่าน่าสนใจ แม้การเล่นแป้ง ไม่ใช่ เรื่องใหม่ของเรา แต่ การเห็นการ สาดแป้ง และ สี
มากขนาดนี้ และ การเห็น เซตติ้ง จะๆ ผมก็คิดว่า มันก็มีประโยชน์เหมือนกัน 
ด้านแป้ง ผมกำลังคิดว่า น่าจะเป็นแป้งฝุ่นโรยตัวะรรมดาๆ แต่ที่มีสีนี่ไม่แน่ใจ เลยพาลไม่แน่ใจว่า อ้าว แล้วไอ้แป้งสีขาวล่ะ แต่ที่แน่ๆ ต้องไม่ใช่ แป้งสำหรับทำอาหาร  อันนี้ ผมขอติดเอาไปศึกษาก่อนว่า แป้งอะไร ที่จะไม่อันตราย 

ลองดูกันเพลินๆ นะครับ ของ เจ้าเดิม วอน หว่อง (Von Wong) 



ค้นแล้วเจอว่า แป้งสีที่เขาใช้ ซื้อมาจากนี่ครับ


วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

GPP 2013 มาแว้ว

ท่ีแรก ผมกะ จะอัพบล็อก เรื่องของชางภาพที่น่าสนใจคนหนึ่ง แต่บังเอิญ วีดีโอ GPP นี้มาถึงผมเช้านี้
ผมเลยขอ ลัดคิวก่อน

ปีนี้ ทาง GPP ก็ได้เชิญแขก ดาราหน้าเดิม เกือบทั้งหมด และ มีหน้าใหม่เข้ามาแซม เช่นเคย
ผ่านตา ผมไปก็มี เดวิท ฮอบบี้ , โจ แมคเนลลี่ย์ , เกรก ไฮสเลอร์, แซค เอเรียส (ไม่นึกว่าจะบ้าได้ขนาดนี้ สะใจ)

วิดีโอ เอนเทอร์เทน มากๆๆ และ คุณจะได้เรียนรู้อะไรมากๆอีกเช่นกัน ในเรื่องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ความคิดริเริ่มสร้างสรร และ ความเป็นมืออาชีพ จริงๆ ลองดูเงื่อนใขที่ให้ ถ้าไม่ใช่มืออาชีพ คงไม่สามารถทำงานเช่นนี้ได้ในเวลาที่จำกัด

ที่สำคัญ แม้ทุกคนจะหยอกล้อกัน แต่ก็ให้เกียรติกันตลอดเวลา สนุกครับ


GPP2013 Shoot-Out from gulf photo plus on Vimeo.

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556

Neil Shape ช่างภาพที่อยากแนะนำให้รู้จัก
























ช่างภาพที่เก่งจริงๆ และ น่าสนใจ แม้จะมีมากมาย แต่หนึ่งในนั้นที่โดดเด่นที่ผมเห็นภาพแล้ว ทึ่ง ก็คือ Neil Shape มันไม่ใช่ว่า ภาพเขา สวยจากการใช้แสง คอมโฑสิชั่น หรือไอเดีย แต่มันได้แสดงออกถึง ความร้ายกาจในการมองของเขา อย่างตัวอย่างภาพ ที่ถ่ายจากการเล่นกับกระจกเงา ภาพเซตนี้ บอกได้ถึงความสามารถส่วนตัวของเขาที่น่าทึ่งมาก แสงเงา ที่ลง คอมโพสิชั่นที่ จับ มันลงตัวเอามากๆๆ จะมีสักที่คนที่คิดถึง ชอต แบบนี้ได้!!










































































งานเขานอกจากจะถ่ายแนวขาวดำ ก็ยังมี แนว แฟชั่น เน้นรายละเอียด ที่ทำได้ดีมาก เป็นงาน สร้างสรร ที่หาดูได้ยาก






































































































































หากคุณจะมองหา งานที่สร้างแรงบันดาลใจ และ เห็นภาพงานดีๆละก็ Neil Shape คือคนที่ผมแนะนำให้ตามผลงานของเขาครับ ไปดูผลงานของเขาได้  ที่นี่


วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง Black Swan โดย นางแบบสุดเซ็กซี่

ช่างภาพชื่อประหลาด Damien Lovegrove ได้ทำโปรเจคใหม่ ที่ผมเดาเอาเองว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังดีที่ผมก็ชอบเรื่องหนึ่งคือ Black Swan นั่นคือ โดยเขาจับเอานักเต้นบัตเลต์มาถ่ายภาพแนว อาร์ตนู๊ด และ ใช้แสงได้ดีมากๆ

ทีมงาน และ อุปกรณ์ในการสร้างภาพได้แก่


Makeup and hair: Claudia Lucia Spoto
Styling: Raphaella McNamara, Lisa Keating and Damien Lovegrove
Location: Pipwell Hall, Northamptonshire
Camera kit: Fujifilm X-Pro1 with 18-55mm OIS f/2.8-4 zoom lens.
Filters: Tiffen Black Pro Mist ¼ on all pictures.
Lights: Arri 150 and Arri 300 junior spotlights. A Lowel iD battery light with lithium power supply.Lupolux DayLED 650 and 1000 spotlights. Lupolux HMI 800 and 1200 Spotlights.


สังเกตว่าเขาเลือกใช้ฟิลเตอร์เอฟเฟคทุกรูป เพื่อให้ได้ภาพที่ไม่ดูเป็นดิจิตอลและได้อารมณ์ภาพอย่างที่เขาอยากได้ ต่อมา คือ การเลือกใช้ ไฟต่อเนื่องแทนการใช้แฟลช ซึ่งผมก็เห็นหลายงานของโปรบางคน ก็เลือกที่จะใช้ไฟต่อเนื่อง อันเนื่องจากความสะดวกในการใช้งานในโปรเจค และ เหตุผลของการจับอารมณ์ภาพที่ต่อเนื่อง (สมาชิกไทยออฟ คงจำงานของ ลาร่า เจด ได้)
ลองดูภาพสวยๆกันนะครับ

ใครสนใจ ซื้อ ของ หรือ ดีวีดี ของเขาได้ ให้ไปที่นี่

http://www.lovegroveconsulting.com/eshop.aspx

http://www.lovegroveconsulting.com/the_training_zone.aspx