Focus Stacking โดยการใช้โปรแกรม PS CS5

ว่างๆอยากลองทำดู เพราะติดใจมานานแล้ว ไอ้เรื่องนี้ แล้วรู้ว่า โปรแกรม PS มันทำให้อัตโนมัติ แต่ไม่เคยได้ทำเองจริงๆสักที
วันนี้ เลยอยากลองทำดูสักหน่อย ขั้นแรก คุณต้องหาของมาถ่าย โดยเป็นของที่ต้องการกำัลังขยายสูงสักหน่อย เลนส์มาโครเทียม หรือ แท้ก็ได้ มีกำลังขยายสัก 1:2 ขึ้นไป อันนี้ผมใช้เลนส์ตัวเก่า ที่ประกาศขายอยู่นี่เอง อิอิ 70-300 ซิกม่า
ถ่ายด้วย f16 และใช้สายลั่นชัตเตอร์ โฟกัส ด้วยมือ ภาพแรก จะได้หน้าชัด หลังเบลอ แบบนี้



ให้คุณหมุนโฟกัสด้วยมือไปเรื่อยๆ จนได้ภาพที่คมชัดทั่วภาพที่ต้องการ
เมื่อได้ครบแล้ว (อย่างในกรณีนี้ผมถ่ายไป สิบกว่าภาพ) ก็ให้คุณโหลดภาพทั้งหมดเข้ามาใน PS CS5
โดยเทคนิคหนึ่งที่ควรใ้ช้คือ ใช้คำสั่ง File -> automate -> photomerge คำสั่งนี้จะนำเข้าภาพทั้งหมด และจะ
จัดเรียงภาพให้ภาพซ้อนกันอย่างดีที่สุดให้เราโดยอัตโนมัติ แต่เราต้องไม่เลือกเช็คบ็อกซ์ใดๆ ทั้งสามอันด้านล่าง
ดังภาพตัวอย่าง


เมื่อมันเรียงเสร็จแล้ว ให้ คลิ๊ก เพื่อเลือกเลเยอร์ ทั้งหมด ที่เรียงกันไว้อย่างดีแล้ว เพื่อจะทำขั้นตอนต่อไป ในการจัดเรียง สแตก โฟกัสให้โดยอัตโนมัติ โดยการ เรียกคำสั่ง จากเมนู อีดิต ตามภาพ



จากนั้นในเมนู ให้เลือก


กดปุ่ม OK คอมพิวเตอร์ก็จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ
จะสังเกตุว่า มันจะทำ Layer mask ให้โดยอัตโนมัติ


เมื่อได้ภาพสุดท้าย ผมนำมาปรับคอนทราส และ สีอีกทีหนึ่ง จะได้ภาพสุดท้าย ที่คมชัด ทั่ววัตถุครับ

Lighting for emotion

Check out this SlideShare Presentation: ผมว่าสไลด์นี้ ดี น่าสนใจ (แม้ว่าส่วนใหญ่ผมจะผ่านตางานของ ดอน มาเกือบหมดแล้ว) การนำภาพและไอเดีย มาประสมประสาน แบบนี้ ถือว่าเป็นงาน รวมข้อคิด และ ภาพที่น่าสนใจมากๆๆ

Lighting for emotion

View more presentations from wizwow.

การทำภาพ เล่นแสง ซ้อนภาพ ร่วมกับ โฟโตชอป

จริง ดอน จิอานี่ติ หรือ เป็นที่รู้จักกันในนามของ Wizwow ได้แนะนำเทคนิคนี้มานานหลายเดือนแล้ว แต่ล่าสุดปัดฝุ่น เขียนบล็อกใหม่เรื่องนี้อีกครั้ง ผมเห็นว่า ยังไม่ได้แนะนำ เทคนิคดีๆ พวกนี้ เลย ขอเอามาแชร์ให้ฟังนะครับ

หลักการ ในเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เป็นเรื่องของการเล่นแสง แต่ข้อจำกัดที่เราอาจต้องการให้แสงเฉพาะจุด หรือ ต้องการให้แสงที่ใกล้กับแบบมากๆ เราก็ต้องถ่ายรวมเอา เซตติ้ง นั้นๆเข้าไปในภาพด้วย

วิธีการง่ายๆ ที่ทำเล่นได้สนุกก็คือ หาขาตั้งกล้องมา แล้ว ตั้งกล้องไว้ ถ่ายภาพแรก ที่ยังไม่ให้แสง เก็บไว้ก่อน





จากนั้น ก็ถ่ายภาพอีกครั้ง แต่ทีนี้ ให้แสงโดยแฟลช ตามที่เราต้องการ จะมี ตัว ม๊อด หรือเปล่าก็ตามใจเรา



จากนั้น ก็เอาภาพมาตัดต่อ รวมกันซะ แค่นี้ คุณก็จะได้ภาพแปลกๆ ที่ไม่เห็นแหล่งกำเนิดแสงในภาพอีกต่อไป



ลองดุนะครับ

อยากอ่านรายละเอียดให้ไป ที่นี่

โปรแกรมจัดไฟ จาก แอปเปิล iTune เจ๋งดี

ไม่น่าเชื่อว่า แอปพลิเคชั่น แบบนี้จะมีในโลก แถมหน้าตาหล่อ ใช้งานง่าย จากบริษัทที่ไม่เกี่ยวกับการถ่ายภาพ หรือ ไฟสตูดิโอเลย
นั่นคือ แอป จาก iTune ลองไปตามลิงค์นี้ http://itunes.apple.com/gb/app/slr/id380768806?mt=8

ตัวอย่าง วิดีโอ ใช้งานที่ เดวิท ฮอบบี้ แห่ง strobist ทำให้ดู ตามนี้เลย



เสียดายผมไม่มี สินค้าใดๆ ของ แอปเปิ้ลเลย 5555 เลยไม่ได้ลอง สมาชิกท่านใด ลองแล้ว ช่วยแจ้งให้ทราบผลด้วยครับ

Softbox v.s diffuser panels

ไม่ได้มาอัพเดทสักระยะ เนื่องจากคอมที่บ้านเสียครับ ต้องกู้และวิ่งไปเคลมสินค้ากันไกลๆเลย โดนทั้งแรมเสีย และ ฮาร์ดดิสก์เสีย

วันนี้ ผมไ้ด้อัพเดทจาก อเล็กซ๊่ อีวานอฟ เรื่องการใช้ ซอฟต์บ็อกซ์ และ ดิฟฟิวเซอร์ พาแนล สำหรับแฟนๆของเวป thaioffcamera และ บล็อก thaioffcamera นี้ อาจทราบว่า ทางเราชื่นชมการใช้ diffuser panels มาก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยเหตุที่เรารู้จักเทพเจ้าแห่งแสง ดีนส์ คอลลินส์ ที่ผมยกให้เป็นปรมาจารย์ด้านแสง และเป็นอาจารย์ของผมเอง

ดีนส์ ให้เหตุผลของการใช้ diffuser panels ว่า มันให้ความคล่องตัวกว่า ซอฟต์บ็อกซ์ ซึ่งกลายเป็นว่า อเล็กซี่ ก็นำคำนี้มาใช้กล่าวอ้างด้วยเช่นกัน ถ้าใครดูงานของ ดีนส์ จะพบว่า กว่า 90% ของงาน คอมเมอร์เชียล ดีนส์ จะใช้ diffuser panels ทั้งสิ้น

ผมเห็นด้วยในแง่ที่ว่า diffuser panels ให้ความคล่องตัวในเรื่องเกี่ยวกับ ขนาดของแสง โดยไม่ต้องขยับตัว พาแนล ไม่เหมือน ซอฟต์บ็อกซ์ ที่คุณต้องขยับ บ็อกซ์ เข้า-ออก ซึ่งจะไปมีผลต่อแสงอีกที

งานนี้้ ทางอเล็กซี่ ทำวิดีโอ และ ภาพนิ่งเปรียบเทียบไว้ ผมขอลอกลิงค์ และ จะใส่ลิงค์บล็อกเขาไว้ด้วยนะครับ

ภาพด้านบนใช้เซตติ้งนี้



และเปลี่ยนมาใช้พาแนล


จะได้ภาพนี้



ลองชมวิดีโอได้ตามนี้ครับ

Product photography: softbox vs diffuser panel from Alex Koloskov on Vimeo.