ระยะหลังๆ การถ่ายภาพด้วยวิธีการคิดแบบแยกเป็นส่วนๆ ทำได้ง่ายมาก และ ได้ผลดี
สมัยนี้ เราไม่จำเป็นต้องจบการถ่ายด้วยภาพเพียงใบเดียว ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายอะไร
เพราะเครื่องมือต่างๆที่ให้สมัยนี้ ทันสมัยขึ้นมาก
ผมเป็นคนไม่ค่อยได้ถ่าย Landscape เพราะเด่วนี้ไม่ค่อยได้ท่องเที่ยวตะลอนๆเหมือนสมัยหนุ่มๆ เรียวแรงก็ไม่ค่อยมี ไม่ถึก เหมือนสมัยก่อน อีกอย่าง ความรู้สึกอยากได้ภาพเหมือนคนอื่นๆลดลงมาก ผมไม่ได้ต้องการไปได้ภาพสวยๆ เหมือนที่คนอื่นได้
ผมแค่อยากรู้ว่า ถ้าเราจะถ่ายแบบนั้น เราพอจะทำได้ไหม ด้วยวิธีอะไร
ซึ่งการถ่ายภาพ Landscape สิ่งสำคัญที่สุดคือ อยู่ถูกที่ ถูกเวลา การถ่ายภาพจากตึกสูง ใครมีเส้นสาย หรือช่องทางการขึ้นไปถ่ายก็ได้เปรียบคนอื่นๆมาก แต่การถ่ายภาพแนวนี้ ถ้าถามถึงความยาก มันไม่ได้ยากอะไรสักเท่าไหร่
ตั้งแต่ผมหันมาใช้กล้องไร้กระจก ผมชอบวิธีการควบคุมกล้อง โดยการใช้โทรศัพท์มือถือ ควบคุมมัน และ มันสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ISO F หรือ S โดยไม่แตะตัวกล้องเลย ถ้าเป็นสมัยก่อน DSLR ไม่มากก็น้อย เราต้องไปปรับที่ตัวกล้อง ไม่ว่าจะปรับค่า S หรือ F หรือ ISO ทำให้กล้อง มีโอกาศ ขยับ
ในการถ่ายแนวสแตก คือ เราต้องการถ่ายหลายๆภาพ เก็บหลายๆส่วนแสง เข้ามา ดังนั้น เราไม่อยากจะให้กล้องขยับเลย ดังนั้นการควบคุมกล้องด้วยระบบ ไวไฟ จึงสะดวกมาก
ผมขึ้นตึกใบหยกครั้งแรก อุตสาห์หาข้อมูล แต่ลืมไปอย่างว่า มุมที่อยากได้นั้น อยู่ตรงไหน ถามบ๋อยก็ไม่มีใครตอบได้ชัดเจน และเนื่องจากเริ่มมืดเรื่อยๆ ผมก็เริ่มลนล่ะ
ความหวังที่จะได้ภาพสมบูรณ์แบบเป็นเรื่องรอง แต่อยากเล่นสิ่งที่รู้มาสำคัญกว่า
มุมนี้คือมุมมหาชน ผมถ่ายจากชั้น83 ฝั่งขวาสุดของตึก ก้มลงจะเห็นมุมนี้ครับ
การถ่ายภาพผ่านกระจก เรื่องแสงสะท้องต้องขจัด มีคนแนะผ้าดำ เจาะรู แต่ผมใช้ กระดาษโปสเตอร์ดำเจาะรู(ตัดเป็นรู) แทน แต่ต้องระวังนะครับ ต้องซึลช่องให้ดี รูปนี้ก่อนซีลครับ ต้องเอาเทปกาว แปะให้หมดด้านล่าง ด้านข้าง ด้านบน